ในปัจจุบันนี้ เทรนด์การรับประทานอาหารที่ใส่ใจสุขภาพกำลังได้รับความนิยมมากขึ้น และหนึ่งในคำที่หลายคนเริ่มได้ยินบ่อย ๆ คือ “กลูเตน” (Gluten) ซึ่งถือเป็นโปรตีนที่พบในธัญพืชบางชนิด เช่น ข้าวสาลี ข้าวไรย์ และข้าวบาร์เลย์ หลายคนอาจจะสงสัยว่ามันคืออะไร และทำไมคนรักสุขภาพถึงให้ความสำคัญกับมันมากขึ้น ในบทความนี้ เราจะพาทุกคนไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับกลูเตนและเหตุผลที่ทำให้คนรักสุขภาพใส่ใจในเรื่องนี้มากขึ้น
กลูเตนคืออะไร?
กลูเตน (Gluten) คือโปรตีนชนิดหนึ่งที่พบในธัญพืชบางประเภท เช่น ข้าวสาลี ข้าวไรย์ ข้าวบาร์เลย์ และทริติเคล (พันธุ์ผสมระหว่างข้าวสาลีกับข้าวไรย์) กลูเตนมีบทบาทสำคัญในการทำให้ขนมปังและขนมอบมีลักษณะเนื้อที่นุ่มและยืดหยุ่น เมื่อผสมกับน้ำมันจะช่วยให้ส่วนผสมเกาะกันและมีความเหนียว จึงเหมาะสำหรับการทำขนมปัง ขนมเค้ก และอาหารที่ต้องการเนื้อสัมผัสที่ฟูและนุ่ม
(Image credit: Getty Images)
ในขณะที่กลูเตนมีประโยชน์ในแง่ของการปรุงอาหาร แต่ก็อาจทำให้เกิดปัญหากับคนบางกลุ่ม โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาด้านสุขภาพเช่น โรคเซลิแอค หรือ ภาวะแพ้กลูเตน ที่เกิดจากการแพ้โปรตีนชนิดหนึ่งที่พบในธัญพืชบางประเภท และจะเกิดโรคที่เรียกว่าภาวะแพ้กลูเตน (Gluten Intolerance) ที่มี 3 ประเภทหลัก ๆ ดังนี้
- โรคเซลิแอค (Celiac Disease) ผู้ป่วยโรคนี้มีภาวะภูมิคุ้มกันผิดปกติ เมื่อรับประทานกลูเตน ร่างกายจะโจมตีเยื่อบุลำไส้เล็ก ทำให้เกิดการอักเสบและปัญหาการดูดซึมสารอาหาร ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดอาการท้องเสีย น้ำหนักลด และอ่อนเพลีย
- ภาวะแพ้กลูเตนแบบไม่ใช่โรคเซลิแอค (Non-Celiac Gluten Sensitivity) คนบางกลุ่มไม่มีโรคเซลิแอค แต่รับประทานกลูเตนแล้วมีอาการไม่สบาย เช่น ท้องอืด ปวดท้อง หรือปวดศีรษะ
- โรคภูมิแพ้ข้าวสาลี (Wheat Allergy) เป็นภาวะที่ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายเข้าใจผิดว่าโปรตีนในข้าวสาลีเป็นสารแปลกปลอมและก่อให้เกิดปฏิกิริยาแพ้ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้หลากหลายรูปแบบ
ทำไมคนรักสุขภาพถึงใส่ใจเรื่องกลูเตนมากขึ้น?
ในปัจจุบันเทรนด์รักสุขภาพกำลังมาแรงจนทำให้แบรนด์ต่างๆ เริ่มหันมาใส่ใจการผลิตวัตถุดิบที่มีคุณภาพมากขึ้น แต่หลายคนที่ไม่ได้มีปัญหาเรื่องการแพ้กลูเตนหันมาเลือกบริโภคอาหารปลอดกลูเตน (Gluten-Free) เพราะมองว่าเป็นการลดการบริโภคอาหารแปรรูปที่ทำจากแป้งขัดสี เช่น ขนมปังและเบเกอรี ซึ่งอาจช่วยลดปริมาณน้ำตาลและแคลอรีที่รับเข้าสู่ร่างกาย อีกทั้งการรับประทานอาหารปลอดกลูเตนกลายเป็นที่นิยมในกลุ่มผู้รักสุขภาพ เพราะบางคนรู้สึกว่าช่วยลดอาการท้องอืดหรือทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่ามากขึ้น อย่างไรก็ตาม หลายคนที่เลือกหลีกเลี่ยงกลูเตนไม่ได้มีปัญหาสุขภาพจริง ๆ แต่เป็นเพราะต้องการทดลองรูปแบบอาหารใหม่ ๆ ที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้นก็ได้เช่นกัน
น้ำปลาตราปลาหมึก ทางเลือกน้ำปลาปลอดกลูเตนที่ใส่ใจสุขภาพ
น้ำปลาแท้ตราปลาหมึก เป็นหนึ่งในแบรนด์น้ำปลาชื่อดังของไทยที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทั้งในประเทศและต่างประเทศ ด้วยรสชาติที่กลมกล่อม และคุณภาพที่ได้รับการรับรองมาตรฐานการผลิตระดับสากล ที่สำคัญ ทุกสูตรของน้ำปลาแท้ตราปลาหมึก ยังเป็นน้ำปลาปลอดกลูเตน (Gluten Free) ทำให้เหมาะสำหรับผู้ที่มีภาวะไวต่อกลูเตน หรือผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพในเรื่องการบริโภค ที่นอกจากจะเป็นน้ำปลากลูเตนฟรีแล้ว น้ำปลาแท้ตราปลาหมึกยังไม่ใส่วัตถุกันเสีย ไม่ใส่ผงชูรส ไม่ใส่สี ไม่แต่งกลิ่น แต่ยังคงรสชาติหอม อร่อย กลมกล่อมเช่นเดิม
สูตรน้ำปลาตราปลาหมึกที่แนะนำ
- น้ำปลาแท้ตราปลาหมึกฉลากสีทอง เกรดพรีเมียม (ปลาหมึกโกลด์) หัวน้ำปลาแท้เกรดพรีเมียม ที่เน้นรสชาติหอมกลมกล่อม เหมาะสำหรับการปรุงอาหารไทยที่ต้องการความพิถีพิถัน เช่น ต้มยำ น้ำจิ้มซีฟู้ด และน้ำยำ เป็นต้น
- น้ำปลาแท้ตราปลาหมึกฉลากเขียว สูตรออริจินัล รสชาติเข้มข้น เหมาะสำหรับอาหารประเภท ตำ ยำ ดอง น้ำพริก หรืออาหารรสแซ่บ เพิ่มความอร่อยจัดจ้านให้กับทุกเมนู
- น้ำปลาสูตรสำหรับเด็กวัย 2 ปีขึ้นไป และน้ำปลาสูตรสำหรับผู้ใหญ่วัย 55 ปีขึ้นไป ทั้ง 2 สูตรนี้โซเดียมต่ำ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมการรับประทานโซเดียมในอาหาร แต่ยังคงรสชาติความอร่อยกลมกล่อมเช่นเดิม
- น้ำปลาเจตราปลาหมึก สูตรสำหรับผู้ที่ทานเจ วีแกนและมังสวิรัติ ไม่มีส่วนผสมของเนื้อสัตว์ ผลิตจากเห็ดชิตาเกะออร์แกนิค และสาหร่ายคอมบุจากประเทศเกาหลี คงความอร่อยในแบบฉบับตราปลาหมึก

(Image credit: Facebook.com/SquidBrand)
ข้อควรระวังเกี่ยวกับอาหารปลอดกลูเตน
แม้อาหารปลอดกลูเตนจะมีประโยชน์สำหรับผู้ที่แพ้กลูเตนหรือมีภาวะไวต่อกลูเตน แต่สำหรับคนทั่วไป การหลีกเลี่ยงกลูเตนอาจทำให้ขาดสารอาหารสำคัญ เช่น ใยอาหาร วิตามินบี และแร่ธาตุอื่น ๆ ที่พบในธัญพืชโฮลเกรน ดังนั้นการเลือกรับประทานอาหารควรปรับให้เหมาะสมกับร่างกายของแต่ละบุคคล เลือกทานอย่างพอดีในปริมาณที่เหมาะสม และเลือกเครื่องปรุงที่ใส่ใจต่อสุขภาพก็เป็นอีกแนวทางหนึ่ง ในการสร้างสุขภาพที่ดีได้เช่นกัน